ประวัติหลวงพ่อปลอด วัดหัวป่า อ. ระโนด จ. สงขลา
หากจะกล่าวถึงพระเถราจารย์ที่เป็นผู้ทรงวิทยาคมเรืองวิทยาเวทย์บำเพ็ญตนในเพศสมณะที่สมบูรณ์ด้วยศีลาจริยาวัตรอันงดงาม ประกอบด้วยวัตรปฏิบัติอันสมถะสันโดษ ปราศจากมลทินใดๆ พลังจิตแก่กล้าด้วยเมตตาธรรม เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรครองจิตใจผู้คนทั่วไป พุทธศาสนิกชนต่างทราบเกียรติประวัติของพระเถระรูปหนึ่งเป็นอย่างดี พระเถระรูปนี้ คือ พระครูพิศิษฐ์บุญสาร หรือหลวงพ่อปลอด ภาษาถิ่น คือ “พ่อท่านปลอด” หรือ “ตาหลวงปลอด” แห่งวัดหัวป่า ตำบลบ้านขาว อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา
ชาติภูมิ
พระครูพิศิษฐ์บุญสาร (หลวงพ่อปลอด บุญฺญสฺสโร) นามเดิมว่าปลอด นามสกุล อ่อนเเก้ว ถือกำเนิดเมื่อวันศุกร์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 10 ปี จอ ตรงกับวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2441 จ.ศ.1260 ร.ศ.117 ค.ศ. 1989 ที่ หมู่ 4 ต.ตะเครียะ อ.ระโนด จ.สงขลา เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 6 คน ของนายสุข นางฝ้าย อ่อนเเก้ว สำหรับพี่น้อง ได้เเก่ นายดำ อ่อนเเก้ว นางกิมเนี่ยว อ่ำปลอด พระครูพิศิษฐ์บุญสาร นายเถื่อน อ่อนเเก้ว นายถั้น อ่อนเเก้ว เเละ นางซุ่นเนี่ยว อ่อนเเก้ว
ชีวิตยามปฐมวัย
เด็กชายปลอด อ่อนเเก้ว เป็นผู้ที่มีความประพฤติเรียบร้อย เป็นบุตรที่อยู่ในโอวาทของบิดามารดา เป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาโอบอ้อมอารีเป็นที่รักของญาติพี่น้อง ครั้นพออายุควรเเก่การศึกษา บิดาจึงได้นำไปฝากพระอธิการคง ฆงคสฺสโร เจ้าอาวาสวัดหัวป่าในสมัยนั้น เพื่อศึกษาภาษาไทย อักษรขอม และอักษรสมัยใหม่ต่างๆ ซึ่งพระอธิการคงได้รับไว้เป็นศิษย์และสอนให้ด้วยตนเอง จนกระทั่งมีความรู้ความสามารถ อ่านออกเขียนได้
บรรพชาและอุปสมบท
หลวงพ่อปลอด ได้รับการศึกษาอบรมด้านพระธรรมวินัย ครั้นพออายุได้ 19 ปี เกิดเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา จึงได้ขอบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันพุธ ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 8 ปีมะโรง ตรงกับวันที่ 12 กรกฎาคม 2459 ณ วัดหัวป่า โดยมีพระอธิการคง ฆงคสสโร เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากบรรพชาแล้ว สามเณรปลอดก็ได้ศึกษาวิชาวิทยาเวทย์ และคาถาอาคมต่างๆจากหลวงพ่อคง ด้วยความเป็นผู้มีความเพียรสูง จึงได้ศึกษาวิชาต่างๆ จากหลวงพ่อคงอย่างรวดเร็ว
พออายุครบอุปสมบท สามเณรปลอดก็ได้อุปสมบท เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 13 กรกฎาคม 2460 ตรงกับ ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8 ปีมะเส็ง ณ วัดหัวป่า โดยพระอธิการคง ฆงคสฺสโร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสุก ธมฺมสโร และ พระชู ติสโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ปุญฺญสฺสโร”
ด้วยเหตุที่เป็นผู้ที่รักในการศึกษาหาความรู้ จึงเริ่มศึกษาพระพุทธศาสนา พระปริยัติธรรมเพิ่มเติม จนสอบผ่านและได้เลื่อนวิทยฐานะตามลำดับ ดังนี้
อายุ 35 ปี พรรษาที่ 14 สอบได้นักธรรมตรี นวกภูมิ ณ สำนักเรียนวัดหัวป่า ได้รับประกาศนียบัตรเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2475
อายุ 38 ปี พรรษาที่ 17 สอบไล่ได้นักธรรมโท มัชฌิมภูมิ ณ สำนักเรียนวัดหัวป่า ได้รับประกาศนียบัตรเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2478
วันที่ 5 ธันวาคม 2517 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น “พระครูพิศิษฐ์บุญสาร”
นอกจากความรู้ทางธรรมแล้ว ท่านยังได้ศึกษาเกี่ยวกับวิทยาเวทย์ จากอาจารย์ที่มีความรู้เรื่องไสยเวทย์ ไม่ว่าจะเป็นสมณะชีพราหมณ์ หรือเพศฆราวาส ได้ศึกษาภาษาขอมจากพระอาจารย์ไข่ ศึกษาวิธีทำตะกรุดพิศมร จากอาจารย์ทวดทองขาว ซึ่งเป็นฆราวาสและผู้เรืองวิทยาเวทย์แก่กล้ามาก โดยเฉพาะด้านคงกระพันชาตรี หนังเหนียว ศาสตราอาวุธทั้งหลายไม่สามารถทำอันตรายได้เลย
นอกจากนี้ยังได้ศึกษาเพิ่มเติมจากอาจารย์เพิ่ม ซึ่งเป็นฆราวาสอยู่ที่อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง และจากพระอาจารย์ผู้เรืองเวทย์ต่างๆอีกมากมาย จนรู้แตกฉานทางวิทยาคมในแขนงต่างๆ จนในที่สุดได้เป็นพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียง และเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกในงานต่างๆนับครั้งไม่ถ้วน
นับได้ว่าหลวงพ่อปลอด เป็นพระอริยะสงฆ์ที่เปี่ยมล้นด้วยคุณธรรม และเมตตาจิตรเป็นพระเถราจารย์ที่สำคัญรูปหนึ่งของภาคใต้ ท่านเป็นภิกษุที่มีความเมตตา ยินดีรับทุกข์ของทุกคนที่ไปขอความช่วยเหลือ ช่วยขจัดปัดเป่าความทุกข์ของผู้เดือดร้อน เป็นศูนย์กลางความสามัคคี ใครทะเลาะวิวาทกันก็เรียกมาพูดคุย จนกระทั่งคู่กรณียอมรับในคำตัดสิน แม้ในยามวิกาล ซึ่งส่วนมากจะเป็นผู้ถูกงูพิษกัด ได้รับการรักษาจนรอดปลอดภัยทุกราย ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้รับความเคารพนับถืออย่างสูงในละแวกบ้าน จนชาวบ้านเรียกท่านติดปากว่า “พระอาจารย์ปลอด” หรือ “พ่อท่านปลอด”
ในทางวิชาแพทย์แผนโบราณ หลวงพ่อปลอดเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการบำบัดรักษาโรคนานาชนิด เช่น การรักษาผู้วิกลจริต หรือเสียสติ การรักษาโรคพิษสุนัขบ้า ผู้ติดยาเสพติด ผู้ถูกสัตว์มีพิษกัดต่อย โดยเฉพาะวิชาสยบแมลงป่อง วิชาผสานพลังจิต เป็นที่เลื่องลือยิ่งนัก ท่านจึงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของผู้ตกทุกข์ได้ยาก เป็นผู้สร้างประโยชน์ให้กับสังคม ช่วยเหลือทางราชการในการรักษาพยาบาล เนื่องจากสมัยนั้นโรงพยาบาลของรัฐมีไม่เพียงพอ และอยู่ห่างไกลการคมนาคมไม่สะดวก นอกจากนั้นท่านยังมีพลังจิต มีพลานุภาพในการทำน้ำพระพุทธมนต์เพื่อขจัดปัดเป่า ผู้ที่ถูกคุณไสยหรือผีเข้า ล้างสิ่งอัปมงคล และอีกส่วนหนึ่งที่เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ลูกศิษย์ คือท่านมี “วาจาสิทธิ์” พูดอะไรจะเป็นไปตามที่พูดเสมอ ในแต่ละปีทางวัดจะจัดพิธีสรงน้ำหลวงพ่อปลอด ในเดือน 5 (เมษายน) ของทุกๆปี บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายเฉพาะผู้ชายจะหมอบลงกับพื้น เริ่มที่ประตูห้องตลอดไปตามแนวระเบียงนอกชานกุฏิ จนถึงสถานที่ที่เจ้าหน้าที่ของวัดจัดไว้ เป็นที่ให้ลูกศิษย์และประชาชนทั่วไปมาสรงน้ำ โดยทุกคนต้องการให้หลวงพ่อเหยียบบนร่างกายของตนเพื่อเป็นสิริมงคล พร้อมกับอธิษฐานขอพรตามปรารถนา
งานด้านการปกครอง
พ.ศ. 2474 เป็นเจ้าอาวาสวัดหัวป่า
พ.ศ. 2478 เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดหัวป่า
พ.ศ. 2507 เป็นพระอุปัชฌาย์
เนื่องจากหลวงพ่อปลอดเป็นพระที่เคร่งครัดในธรรมวินัย ท่านจึงยึดมั่นในระเบียบการครองวัดตามระเบียบของมหาเถรสมาคม มีการทำอุโบสถ สังฆกรรม (สวดปาฏิโมกข์) ตลอดปี มีกฎระเบียบของวัดเกี่ยวกับ การบวชนาค นวกภิกษุ การเรียนการสอนปริยัติธรรม และการ อบรมศิษย์วัด เป็นต้น
งานด้านการศึกษา
เนื่องจากหลวงพ่อปลอด เป็นผู้มีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการศึกษา ท่านจึงพยายามสั่งสอนศิษย์ทุกคนให้ได้รับการศึกษา และหาความก้าวหน้าในชีวิตด้านการศึกษา วิธีการส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจให้ศิษย์รักการศึกษา คือ การตั้งรางวัลให้ทุนกับผู้ที่มีความอุตสาหะ ขยันหมั่นเพียร และเรียนดี นอกจากนั้น ท่านยังสนับสนุนโดยการส่งภิกษุสามเณร ที่ท่านเห็นว่ามีภูมิปัญญาควรแก่การส่งเสริมให้ไปศึกษาเล่าเรียน ณ สำนักเรียนอื่นๆ ซึ่งมีการจัดการศึกษาในระดับที่สูงกว่า ดังนั้น จะเห็นได้จากศิษย์ของหลวงพ่อปลอดหลายรูปจบปริญญาตรี โท และปริญญาเอก
การเผยแพร่พระศาสนา
ตั้งแต่ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสเป็นต้นมา ท่านเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในทางเผยแพร่พระพุทธศาสนา โดยเป็นผู้ให้การอบรมศีลธรรมแก่นักเรียนและประชาชน มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 – 2535 และในปี พ.ศ. 2519 ท่านได้ร่วมมือกับธรรมฑูตในการเผยแพร่ศีลธรรมให้กัวนักเรียนและชาวบ้านหัวป่า ส่งเสริมให้ประชาชนร่วมทำความดี ทำบุญกุศล และร่วมพิธีในวันสำคัญทางพุทธศาสนา และที่สำคัญคือ ท่านเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน ในช่วงเข้าพรรษาของทุกๆจะมีผู้เลื่อมใสศรัทธาบวชเรียนประจำพรรษาอยู่วัดหัวป่า เป็นจำนวนมากจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
งานด้านสาธารณูปการ และการพัฒนาวัด
หลวงพ่อปลอดนอกจากเป็นพระอาจารย์ที่เรืองวิทยาเวทย์แล้ว ยังเป็นพระผู้นำ พระนักพัฒนา ท่านชอบสร้างความเจริญให้กับท้องถิ่น ท่านไม่เคยอยู่นิ่งเลย ได้สร้างสิ่งต่างๆ อาทิ
พ.ศ. 2483 สร้างอาคารเรียน โรงเรียนวัดหัวป่า มีลักษณะทรงปั้นหยา กว้าง 8 เมตร ยาว 24 เมตร ราคาก่อสร้าง 2,000 บาท
พ.ศ. 2492 สร้างพระอุโบสถถาวร หลังที่ 3 ทดแทนหลังเดิมที่ชำรุด
พ.ศ. 2497 สร้างศาลาการเปรียญ ลักษณะทรงไทยชั้นเดียว กว้าง 14 เมตร ยาว 16 เมตร ราคาก่อสร้าง 70,000 บาท
พ.ศ. 2505 เริ่มดำเนินการก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ เนื่องจากหลังเก่าชำรุดมาก จึงให้รื้อและสร้างใหม่ให้ถาวร กว้าง 9 เมตร ยาว 16 เมตร
พ.ศ. 2513 ได้บูรณะปฏิสังขรณ์กุฏิ ลักษณะทรงไทย 2 ชั้น กว้าง 3 เมตร ยาว 6 เมตร ค่าบูรณะ 20,000 บาท และในปีเดียวกันท่านได้ชักชวนให้ชาวบ้านขุดสระน้ำในในบริเวณที่ดินวัด เพื่อให้มีน้ำใช้ตลอดปี
พ.ศ. 2515 ได้บูรณะปฏิสังขรณ์กุฏิลักษณะทรงไทย 2 ชั้น กว้าง 9 เมตร ยาว 9 เมตร ค่าบูรณะ 65,000 บาท ท่านได้ชักชวนให้ราษฎรบ้านหัวป่าพัฒนาเส้นทางคมนาคม โดยตัดถนนหน้าวัดยาว 2 กิโลเมตร
พ.ศ. 2523 สร้างศาลาการเปรียญ (โรงธรรม)
พ.ศ. 2524 สร้างเมรุเผาศพ (รื้อแล้ว)
พ.ศ.2526 – 2527 สร้างหอระฆัง
ช่วงสุดท้ายของชีวิต
หลวงพ่อปลอดได้มรณภาพด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2537 สิริอายุรวม 97 ปี พรรษาที่ 76 ปัจจุบันร่างของท่านนอนสงบนิ่งอยู่ในโลงแก้ว ณ กุฏิหลังหลังใหม่ (ย้ายกลับหลังเดิมแล้ว)วัดหัวป่า หากท่านผู้ใดเป็นศิษยานุศิษย์ ผ่านไปอำเภอระโนด จะเข้าไปกราบบูชาสรีระของท่านเพื่อขอพร ขอบารมี คุณงามความดีของหลวงพ่อมาคุ้มครองปกป้องรักษาให้ประสพโชคดีมีความสุขสืบไป
|